10 ที่เที่ยวกาญจนบุรี ไปกี่ทีก็ชิลล์

ใครที่กำลังมองหาทริปเล็กๆ ไปเที่ยว ไปชิลล์ได้แบบไม่ต้องขับรถไปไกล ใช้เวลาไม่นาน แต่พักผ่อนหย่อนใจ ชิลล์สุดอะไรสุด ก็ต้องที่ “กาญจนบุรี” เท่านั้นแหละ! สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ใจไป แต่เวลาไม่อำนวย อยากจัดทริปไปชิลล์ที่กาญจนบุรี แนะนำให้วางแพลนเที่ยวแบบเป็นขั้นตอน เริ่มจากการหาที่พักกาญจนบุรี ในตัวช่วยแอพจองที่พักอันดับหนึ่ง Traveloka จะช่วยให้การค้นหาที่พักของคุณง่ายแค่ปลายนิ้วคลิก แถมยังมีโปรโมชั่นมากมาย โดยเฉพาะโค้ดลดราคา ไฮไลท์อยู่ตรงที่ว่าสามารถเลือกจองที่พักกาญจนบุรีราคาได้ถูกได้แม้แต่เป็นช่วงไฮซีซั่นเลยทีเดียว หลังจากจองที่พักกาญจนบุรีเรียบร้อยแล้ว ก็ตามมาดูกันดีกว่าว่าที่เที่ยวกาญจนบุรีมีที่ไหนให้แวะไปเช็กอินกันบ้าง ออกสตาร์ทไปพร้อมกันเลย!

1. สังขละบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรีที่แรก คือ สังขละบุรี ดินแดนแห่งมนตร์เสน่ห์ที่ใครมาก็ต้องหลงรักหัวปักหัวปำ ทั้งบรรยากาศ ผู้คนเป็นมิตร ใกล้ชิดธรรมชาติ และวัฒนธรรมน่ารักๆ ที่ชวนหลงใหล ทั้งตักบาตรมอญตอนเช้าตรู่ เดินเล่นสะพานมอญข้ามแม่น้ำซองกาเรีย พูดคุยกับเหล่ามักคุเทศน์น้อยที่คอยให้ข้อมูลเราตลอดการท่องเที่ยว สักการะบูชาพระเจดีย์พุทธคยาเพื่อความสิริมงคลแก่ชีวิต ชมความสวยงานวัดใต้น้ำ ตำนานวัดหลวงพ่ออุตตมะ แล้วไปโดดน้ำ เล่นน้ำตกซองกาเรียให้หนำใจ!


2. หมู่บ้านอีต่อง ปิล็อก

ขับรถมาเที่ยว มานอนโฮมสเตย์สุดชิลล์ที่หมู่บ้านอีต่อง หมู่บ้านเหมืองแร่ที่ อ.ทองผาภูมิ ของจังหวัดกาญจนบุรี ที่หมู่บ้านแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านเหมืองแร่ก็เพราะว่าในอดีตนั้น ที่นี่เคยเป็นเหมืองแร่ที่รุ่งเรืองมาก มีการทำเหมืองกว่า 60 เหมือง ได้ชื่อว่าเหมืองปิล็อก ซึ่งปัจจุบันสินแร่ทั้งหลายก็เหลือเพียงแต่อุปกรณ์การทำเหมืองทีถูกดัดแปลงมาเป็นหนึ่งไฮไลต์ในที่เที่ยวกาญจนบุรี ใครที่อยากมานอนชิลล์ท่ามกลางหุบเขาสุดเขตแดนตะวันตก สัมผัสหมอกหนาๆ แนะนำให้มารับรองว่าฟิน!


3. ลำคลองงู

ที่เที่ยวกาญจนบุรีที่คนที่ชอบลุย ชอบเดินป่า ปีนเขา ว่ายน้ำ โดดน้ำ เที่ยวธรรมชาติห้ามพลาด! แนะนำให้ลองไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ที่อำเภอทองผาภูมิกันดูสักครั้ง ไปสัมผัสเสาหินธรรมชาติที่สูงที่สุดในโลก วัดจากพื้นถึงยอดได้ 62.5 เมตร ไปเดินลุยชมความสวยงามสุดมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ทั้งหินงอกหินย้อย ถ้ำเสาหิน โถงเสาหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางถ้ำ และมีลำห้วยลำคลองงูไหลผ่าน ใจพร้อม ร่างพร้อม ก็ไปลุยกันเลย

ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่เหมาะสม: เดือนมีนาคม-พฤษภาคมของทุกปี

อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ: ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท, เด็ก 20 บาท / ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท, เด็ก 100 บาท


4. เขาช้างเผือก

หนึ่งในเส้นทางการเดินเขาสุดท้าทายที่เหล่านักผจญภัยต้องไปพิชิตสักครั้ง เขาช้างเผือก ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ที่เที่ยวกาญจนบุรีที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสธรรมชาติเพียงแค่ปีละไม่กี่เดือนเท่านั้น แถมยังจำกัดเพียงแค่วันละ 60 คน กับระยะทางเดินเท้ากว่า 6 ชั่วโมง เพื่อไปสัมผัส สันคมมีด จุดไฮไลต์ที่เป็นสันเขที่ทั้งสวยและหวาดเสียว! ใครที่อยากขึ้นไปชมวิวสวยๆ แบบ 360 องศา พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ฉ่ำปอด อย่าลืมเตรียมร่างให้พร้อม แล้วรีบจองล่วงหน้าก่อนไป 7 วันล่ะ ช้าหมดอดไปลุยไม่รู้ด้วยนะ

ช่วงเวลาท่องเที่ยว: 24 พฤศจิกายน 2561- 31 มกราคม 2562

ค่าเข้าอุทยานฯ: คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท / ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท , เด็ก 100 บาท

ค่ายานพาหนะ: รถยนต์ 30 บาท / รถจักรยานยนต์ 20 บาท

ค่าบริการสำหรับพื้นที่กางเต็นท์: 30 บาท ต่อคน ต่อคืน


5. ต้มจามจุรียักษ์

ปักหมุดต้นจามจุรียักษ์ แล้วขับรถห่างออกจากตัวเมืองกาญจน์ไปไม่ไกล จะเจอกับอีกหนึ่งที่เที่ยวกาญจนบุรีให้เราได้ตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจไปกับเส้นรอบวงขนาดใหญ่ของต้นจามจุรียักษ์ หรือ ต้นก้ามปูยักษ์ อายุกว่า 100 ปี ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มรื่นขนาดใหญ่กินพื้นที่กว่า 1 ไร่เศษ โดยต้นจามจุรียักษ์นี้อยู่ภายใต้การดูแลของกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 1 กรมการสัตว์ทหารบกที่ดูแลรักษาต้นจามจุรีเก่าแก่นี้ไว้อย่างดี ใครกำลังมองหาสถานที่เงียบๆ ร่มรื่นๆ อย่าลืมตามไปล่ะ

เวลาเปิด-ปิด: 06.00 – 18.00 น.

ค่าเข้าชม: ไม่เสียค่าเข้าชม


6. น้ำตกเอราวัณ

ถ้าพูดถึงที่เที่ยวกาญจนบุรีแนวธรรมชาติ ก็ต้องยกให้กับ น้ำตกเอราวัณ น้ำตกที่ใหญ่และสวยงามบนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ความยิ่งใหญ่ของน้ำตกแห่งนี้นั้นต้องบอกเลยว่าอลังการมาก เพราะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกัน แถมแต่ละชั้นยังมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งถ้าได้ขึ้นไปบนชั้นสูงๆ น้ำของน้ำตกเอราวัณก็จะยิ่งเป็นสีฟ้าอมเขียวมรกตสวยเหมือนอยู่ในสระว่ายน้ำ น้ำใสแจ๋วจนเห็นตัวปลาเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้ก็เพราะที่น้ำตกแห่งนี้เป็นเทือกเขาหินปูน ตามคุณสมบัติแล้วหินปูนจะละลายน้ำได้ดีและมีตะกอน น้ำตกหินปูนจึงมีน้ำใสด้านบน และตะกอนด้านล่าง เมื่อแสงส่องมาจึงสะท้อนกลายเป็นน้ำสีเขียวมรกตนั่นเอง

เวลาเปิด-ปิด: 7.30-16.00 น.

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 40 บาท, เด็ก 20 บาท

ค่ารถกอล์ฟบริการ: เที่ยวละ 20 บาท/คน


7. สะพานข้ามแม่น้ำแคว

สะพานข้ามแม่น้ำแคว แลนด์มาร์กที่เที่ยวกาญจนบุรี ถ้าไม่ได้แวะเวียนมาที่นี่เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึงเมืองกาญจน์ได้… สะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นสะพานที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์และเป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรมาก่อสร้างทางรถไฟเพื่อผ่านไปสู่พม่า ปัจจุบันสะพานข้ามแม่น้ำแควกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ


8. วัดถ้ำเสือ

ไม่ว่าจะมาเที่ยวเมืองกาญจน์กี่ครั้ง วัดถ้ำเสือ ก็ยังคงเป็นศาสนสถานและที่เที่ยวกาญจนบุรีที่สะดุดตาเราอยู่เสมอ ด้วยองค์พระชินประทานพร พระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่กลางแจ้งสีเหลืองทองอร่ามโดดเด่นสะดุดตาชวนให้แวะเวียนเข้ามาสักการะบูชา อิ่มอก อิ่มใจ อุ่มบุญไปกับพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท และพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย คือสิ่งที่ต้องแวะมากราบนมัสการเสมอ

เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้เข้าชมทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ 8.30 – 16.30 น. / เสาร์ – อาทิตย์ 8.00 – 16.30 น.


9. เขื่อนศรีนครินทร์

เขื่อนศรีนครินทร์ นอกจากจะเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกและประโยชน์ในด้านต่างๆ ให้กับประชาชนแล้ว เขื่อนศรีนครินทร์ยังเป็นที่เที่ยวกาญจนบุรี และที่พักยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายมุ่งหน้ามาเที่ยวกัน ด้วยบรรยากาศดี วิวสวย และเป็นที่ตั้งของที่พักที่มาพร้อมกับกิจกรรมทางน้ำสนุกๆ มากมาย ทั้งเครื่องเล่นทางน้ำสุดมันส์ พายเรือคายัค ล่องแพเปียก เจ็ทสกี เป็นต้น ชนิดที่มาเที่ยวกับเพื่อนก็ได้ มากับครอบครัวก็ดี เขื่อนศรีนครินทร์จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดป๊อปที่ใครๆ ก็นึกถึง


10. Safari Park Open Zoo & Camp

ขับรถพาเด็กๆ หรือจะพาตัวเองไปย้อนวัยเด็กที่ Safari Park Open Zoo & Camp สวนสัตว์เปิดแนวธรรมชาติขนาดใหญ่ บนเนื้อที่กว่าา 500 ไร่ของจังหวัดกาญจนบุรี ความพิเศษของสวนสัตว์แห่งนี้ คือ เราสามารถใกล้ชิด สัมผัสกับสัตว์ต่างๆ ทั้งกวาง ม้าลาย เสือ และยีราฟได้แบบเอ็กซ์คลูซีฟแบบไม่มีกรงกั้น แถมยังเดินเล่นกันอย่างอิสระเสรี และโผล่หน้าเข้ามาทักทายเราได้ตลอดเวลา ถือเป็นหนึ่งที่เที่ยวกาญจนบุรีที่ห้ามพลาด!

เวลาเปิด-ปิด: เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 – 17.00 น.

ราคาบัตรผ่านประตู: ชาวไทย ผู้ใหญ่ 200 บาท, เด็ก 100 บาท / ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 550 บาท, เด็ก 350 บาท

เห็นมั้ยล่ะว่าที่เที่ยวกาญจนบุรีมีเยอะแยะมากมายให้เราได้เลือกไปชิลล์กัน ใครที่มีจุดหมายปลายทางอยู่ในใจแล้ว ก็เคลียร์คิว ทำตัวให้ว่างๆ แล้วปักหมุดสถานที่ให้พร้อม แล้วขับรถไปชิลล์กันเลย